หมดปัญหา ตู้เย็นกินไฟ แก้ได้ง่าย ลงทุนเพียง 2 บาท ก็เหมือนได้ตู้เย็นใหม่ทั้งเครื่อง

หมดปัญหา ตู้เย็นกินไฟ แก้ได้ง่าย ลงทุนเพียง 2 บาท ก็เหมือนได้ตู้เย็นใหม่ทั้งเครื่อง

เดี๋ยวนี้หลายคนประสบปัญหาค่าไฟพุ่งสูงขึ้น ทั้งที่เราก็รู้สึกว่าใช้ไฟเท่าเดิม แต่ทำไมบิลค่ าไฟมันพุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ ให้เราสังเกตเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆในบ้านให้ละเอียด ว่าเกิดความเสียหายหรือชำรุดหรือไม่ อย่างเช่น ตู้เย็นที่บ้านมักจะเ สื่ อ มสภาพตามกาลเวลา ให้ตรวจดูตรงขอบยางตู้เย็นว่ายังใช้งานได้ปกติมั้ย โดยเราจะมาบอกวิธีการเช็คง่ายๆ ให้ทุกคนได้รู้กัน โดยใช้งบในการตรวจเช็คไม่ถึง 2 บาท พร้อมกับวิธีการเปลี่ยนขอบยางใหม่ สามารถทำเองได้สบายมาก

วิธีเช็คว่า ขอบยางตู้เย็นเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง ตู้เย็นปิดสนิทดีหรือไม่

ให้เตรียมกระดาษ A4 มาไว้ 1 แผ่น ซึ่งราคาแผ่นไม่ถึง 2 บาท แล้วเปิดตู้เย็นและเสียบกระดาษไว้ตรงประตู เพื่อให้ประตูตู้เย็นหนีบกระดาษไว้ครึ่งแผ่น เมื่อปิดประตูตู้เย็นสนิทแล้วให้ลองดึงกระดาษ A4 ออก

หากว่าต้องใช้แรงมากในการดึง แบบนี้แสดงว่าตู้เย็นยังปิดสนิทดีอยู่ แต่ว่าถ้าเกิดดึงกระดาษออกมาได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้แรงดึงเลย แบบนี้แสดงว่าขอบยางตู้เย็นเสื่อมสภาพแล้ว

ควรต้องเปลี่ยนใหม่ทันที เพื่อให้ความเย็นในตู้เย็นไม่ไหลออกมาด้านนอก ช่วยลดการกินไฟไปได้มาก และทำให้ตู้เย็นทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถ้าเราไม่ได้ตรวจเช็ค ก็ไม่รู้ พอไม่รู้ ก็จะงง ว่าค่าไฟมันขึ้นได้ไง มาจากเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวไหนในบ้าน เราจะไม่ต้องมาเสียเงินค่าไฟแพงโดยใช่เหตุ

วิธีทำให้ขอบยางนุ่มขึ้น โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อเพื่อเปลี่ยนอันใหม่อะไรเลย

ขอบยางประตูตู้เย็นที่มีความเสื่ อ มสภาพแล้วจะมีความแ ข็ ง ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้เบื้องต้นด้วยการทำให้ขอบยางนั้นอ่อนนุ่ม โดยเริ่มแรกอย่าลืมถอดปลั๊กตู้เย็นออกก่อน แล้วใช้น้ำร้อนมาเทราดตรงบริเวณขอบยางทั้ง 4 ด้านทิ้งไว้ครู่หนึ่ง ขอบยางจะเริ่มขยายตัวและอ่อนนุ่มขึ้น เท่านี้ตู้เย็นเราก็กลับมาใช้งานได้สมบูรณ์เต็มที่เหมือนเดิมแล้ว ก็เปรียบเหมือนว่าเราได้ตู้เย็นใหม่ทั้งเครื่อง เพราะตู้เย็นมีประสิทธิภาพดีเหมือนตอนแรกๆที่เราซื้อมา เพราะได้แก้ไขจุดที่บกพร่องแล้ว ตู้เย็นปิดได้สนิทดังเดิมแล้ว ความเย็นไม่ออก ไม่เปลืองไฟอีกต่อไปแล้ว แต่หากในกรณีที่ว่า ขอบยางยังคงเป็นเส้นแข็งอยู่ไม่นุ่มขึ้นเลย ก็แสดงว่าขอบยางนั้นหมดอายุการใช้งานแล้ว ควรเปลี่ยนใหม่ทันที ซึ่งตรงนี้จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

วิธีการเปลี่ยนขอบยางตู้เย็น ทำเองได้ง่ายมาก

หากในกรณีที่เราตรวจเช็คแล้วพบว่าขอบยางตู้เย็นเสื่ อ ม หรือมีราขึ้น อาจต้องมีค่าใช้จ่ายตรงนี้เพิ่มมา คือยางขอบตู้เย็น ซึ่งให้ทำการเปลี่ยนยางใหม่เลย โดยก่อนจะเปลี่ยนทุกครั้งอย่าลืมดึงปลั๊กตู้เย็นออกก่อน จากนั้นใช้ไขควงมาคลายสกรูตรงขอบยางทุกจุด แล้วค่อยๆดึงขอบยางออกมาทีละนิด เมื่อยางหลุดออกจากตู้เย็นหมดแล้ว ให้นำยางเส้นใหม่ไปแช่ในน้ำอุ่ นทิ้งไว้ก่อนประมาณ 2-3 นาที แบบนี้จะช่วยทำให้ย างอ่ อนตัว มีความยืดหยุ่นขึ้น ทำให้ดัดใส่เข้าไปตรงบานประตูตู้เย็นได้ง่าย เมื่อเราใส่ขอบยางแนบสนิทกับบานกระตูตู้เย็นเรียบร้ อยแล้ว ให้ลองเปิด-ปิดประตูตู้เย็นดูว่าใช้งานได้ปกติมั้ย ถ้าได้แล้วก็เสียบปลั๊กตู้เย็นให้ทำงานตามปกติได้เลย

เคล็ดลับการใช้ตู้เย็นให้ประหยัดไฟ ไม่กินไฟมากเกินไป

1 เลือกใช้ตู้เย็นที่ช่วยประหยัดไฟ

การเลือกใช้ตู้เย็นแบบประตูเดียวจะช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าตู้เย็น 2 ประตู แม้จะเป็นขนาดเดียวกันก็ตาม ส่วนอุณหภูมิความเย็นที่ตั้งไว้ภายในตู้เย็น ควรจะใช้ระดับความเย็นปานกลาง และไม่ควรติดตั้งตู้เย็นในบริเวณที่มีความร้อน ไม่ควรนำอาหารที่ยังร้อนอยู่เข้าแช่ตู้เย็น เพราะจะส่งผลให้อุณหภูมิในตู้เย็นสูงขึ้น ตู้เย็นจะทำงานหนัก ทำให้กินไฟมากขึ้นนั้นเอง และนอกจากนั้น เราควรจะละลายน้ำแข็งในตู้เย็นเป็นประจำ เพื่อให้ตู้เย็นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และคอยตรวจดูยางขอบตู้เย็นอยู่เสมอว่ายังทำงานได้ปกติดีหรือไม่ เสื่ อ มสภาพแล้วหรือยัง

2 ไม่ควรเปิด – ปิดตู้เย็นบ่อยเกินไป

การที่เราเปิดประตูตู้เย็นบ่อยเกินไป หรือเปิดค้างไว้นาน จะทำให้อุณหภูมิภายในตู้เย็นสูงขึ้น คอมเพรสเซอร์ตู้เย็นทำงานหนัก เพื่อทำความเย็นให้อุณหภูมิในตู้เย็นกลับมาเท่าเดิม ฉะนั้นแล้วเราควรจะเปิดตู้เย็นเฉพาะตอนที่จำเป็น และเมื่อเปิดแล้วก็ควรจะรีบปิดให้สนิท เพื่อช่วยประหยัดไฟ

3 ติดตั้งตู้เย็นให้ด้านหน้าสูงกว่าด้านหลัง

การวางตู้เย็นในระดับเสมอกัน หรือวางให้ด้านหลังสูงกว่าด้านหน้า แบบนี้อาจทำให้ประตูตู้เย็นปิดไม่สนิท ฉะนั้นควรจะติดตั้งให้ด้านหน้าตู้เย็นสูงกว่าด้านหลังนิดหน่อย โดยประมาณ 2-3 ซม. ให้ตู้เย็นดูเชิดหน้าขึ้น เวลาปิดประตูตู้เย็นก็จะได้ปิดสนิทขึ้นด้วย

4 ตู้เย็นควรวางไว้ในบริเวณที่เหมาะสม

ตู้เย็นไม่ควรติดตั้งไว้ในบริเวณที่มีความร้อน อย่างเช่น วางใกล้หม้อหุงข้าว เตาแก๊ส เตาอบ หรือริมประตู หน้าต่างที่มีแสงแดดส่อง เพราะจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก ตู้เย็นควรจะวางบริเวณที่ไม่มีความร้อน แล้วก็ควรวางห่างจากผนังอย่างน้อย 15 ซม. ตู้เย็นจะได้ระบายความร้อนออกได้ดี เป็นการช่วยประหยัดไฟได้เบื้องต้น

5 ไม่ควรเสียบปลั๊กตู้เย็นร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟมากพอสมควร อีกทั้งยังต้องใช้ไฟตลอดเวลาด้วย นี่จึงเป็นเหตุว่า ไม่ควรเสียบปลั๊กตู้เย็นร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆในบ้าน เราควรจะเสียบปลั๊กตู้เย็นติดฝาผนังโดยตรงแบบเดี่ยวๆ และควรจะติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรไว้ด้วยหากเกิดเหตุไฟฟ้าขัดข้องให้เรารีบถอดปลั๊กไฟตู้เย็นออกทันที เมื่อไฟกลับมาใช้งานได้ปกติให้เรารอประมาณ 5 นาทีค่อยไปเสียบปลั๊กตู้เย็นให้เริ่มทำงาน การทำแบบนี้จะช่วยป้องกันตู้เย็นเสียหายจากแรงดันไฟฟ้าผิดปกติ ช่วยถนอมให้ตู้เย็นมีอายุการใช้งานที่นานขึ้นด้วย

ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นมากๆอย่างหนึ่งเลย หลายบ้านต้องมีติดไว้เพื่อแช่อาหาร ถนอมอาหารให้มีอายุนานขึ้น แต่ทั้งนี้หากเราใช้ตู้เย็นได้อย่างถูกวิธี มีการดูแลรักษาที่ดี ก็จะช่วยลดการกินไฟ ประหยัดค่าไฟไปได้เยอะเลยล่ะ