3 วิธีซักผ้าขาวสะอาด เหมือนได้ใหม่ แม่บ้านเก็บไปใช้ได้ประโยชน์

3 วิธีซักผ้าขาวสะอาด เหมือนได้ใหม่ แม่บ้านเก็บไปใช้ได้ประโยชน์

ถึงแม้ผ้าขาวของคุณจะหม่นหมองหรือเลอะคราบที่เป็นรอยเปื้อนมากแค่ไหน สูตรซักผ้าขาวเหล่านี้ก็สามารถช่วยทำให้ผ้าขาวของคุณกลับมาใหม่ได้อีกที ไม่ต้องเสียเงินเสียทองซื้อซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้สิ้นเปลืองเลย

จัดการกับรอยคราบง่ายจากของในห้องครัว

ระหว่างที่กำลังซักผ้าขาวก็ลุ้นซะแทบแย่ แม้กระนั้นพอซักเสร็จแล้วกลับเจอกับความผิดหวัง ด้วยเหตุว่ามันไม่ขาวเหมือนอย่างที่คิด ! ยังมีคราบที่เป็นรอยสกปรกและก็เปื้อนคงเหลืออยู่ให้เห็นบ้าง แม้กระนั้นไม่จำเป็นต้องห่วงจ้ะ ก็แค่เพียงให้นำเอาผ้าขาวพวกนั้นมาแช่ลงไปภายในน้ำที่ผสมกับน้ำส้มสายชูในจำนวนเท่าๆกัน ทิ้งเอาไว้ราวๆ 1 ชั่วโมง ถ้าหากว่ารอยคราบที่เปื้อนมันออกไปยังไม่หมดก็ให้แช่ซ้ำอีกครั้ง แล้วก็ค่อยนำไปซักเหมือนอย่างที่เคยซักตามปกติ คราบเปื้อนเลอะเทอะซึ่งมีความสกปรกก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย

จัดการกับรอยคราบผ้าขาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สูตรนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้การกำจัดกับรอยคราบบนผ้าขาวให้มีประสิทธิภาพมากเพิ่มขึ้น เริ่มจากการผสมผงซักฟอกในน้ำเปล่าแล้วตีให้เกิดฟอง แล้วก็เทเบกกิ้งโซดา 2 ถ้วยตวงตามลงไป คนส่วนประกอบทั้งหมดที่มีอยู่ซึ่งคนไปเรื่อยๆจนกว่าเข้ากัน แล้วหลังจากนั้นนำผ้าขาวที่มีคราบเปื้อนมาแช่ทิ้งเอาไว้ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะใช้มือในการขยี้ผ้าโดยย้ำตรงบริเวณที่มีคราบเปื้อนเลอะเทอะซึ่งมีความสกปรก แล้วหลังจากนั้นก็ให้นำไปซักและทำความสะอาดเหมือนอย่างเดิมที่เคยซักปกติอีกรอบ

รอยเปื้อนบนผ้าขาวหลุดออกง่ายอย่างยิ่ง

น้ำมะนาวนี่แหละจ้ะ ที่จะสามารถช่วยขจัดคราบบนผ้าขาวได้อย่างง่ายดายขั้นตอนแรกให้เริ่มที่การผสมผงซักฟอก 1/3 ช้อนในน้ำเปล่า ตีให้มีฟอง และก็หลังจากนั้นจึงค่อยเทน้ำมะนาว 1 ถ้วยตวงผสมกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้ากัน นำผ้ามาแช่ทิ้งเอาไว้ 1 ชั่วโมง หลังจากที่เสร็จแล้วก็จึงค่อยขยี้ผ้าเน้นย้ำบริเวณที่มีคราบหรือถ้าไม่อย่างนั้นก็อาจจะนำเปลือกของมะนาวมาเช็ดซ้ำบนคราบเปื้อนอีกครั้ง ก็จะสามารถช่วยให้คราบเปื้อนหลุดออกง่ายมากยิ่งขึ้น และจากนั้นจึงนำไปซักเหมือนอย่างปกติ

การซักผ้าสีตก จัดการกับรอยคราบออกยาก ให้เสื้อกลับมามีความสะอาดน่าใส่อีกที

เพียงผสมน้ำส้มสายชูขาว 1 ถ้วยตวง กับน้ำเย็น 1 แกลลอน เข้าด้วยกัน แล้วต่อจากนั้นใส่ผ้าที่สีตกลงไป จะแช่อีกทั้งชุดหรือเพียงแค่จุดที่เลอะเทอะก็ได้ ปล่อยทิ้งเอาไว้ราว 30 นาที แล้วก็ค่อยนำออกมาล้างด้วยน้ำเย็น ก่อนที่จะซักอีกครั้งในเครื่องซักผ้า ใส่ผงซักฟอกและก็น้ำที่สะอาดตามเดิม เท่านี้ก็จะพบว่ารอยเปื้อนสีตกจางหายไปแล้ว สามารถนำไปตากให้แห้งรวมทั้งนำกลับมาใส่ได้ดังเดิม อ๋อ แม้วิธีนี้จะเป็นธรรมชาติแล้วก็กำจัดคราบฝังแน่นได้ดี แม้กระนั้นเหมาะกับผ้าสีขาวเพียงแค่นั้น ที่สำคัญก่อนที่จะลงมือกระทำ อย่าลืมทดลองในมุมเล็กๆเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของเสื้อผ้าด้วย

ดับกลิ่นเสื้อมือสอง พร้อมวิธีสำหรับซักลบคราบเปื้อนเลอะเทอะซึ่งมีความสกปรก ให้ผ้าสะอาดเหมือนใหม่

เบกกิ้งโซดา ก็ถืออีกหนึ่งไอเทมสารพัดประโยชน์ ที่บอกเลยว่าประสิทธิภาพเกินราคา เพราะว่านอกเหนือจากจะช่วยทำให้ขนมฟู และก็ช่วยจัดการกับรอยคราบเปรอะเปื้อนต่างๆด้านในภายได้แล้ว ยังทำช่วยขจัดกลิ่นเหม็นได้ด้วย โดยโรยเบกกิ้งโซดาราวครึ่งถ้วยตวงลงไปบนเสื้อมือสองแล้วขยี้เบาๆก่อนนำเอาไปซัก แล้วระหว่างซักผ้าแบบปกติ ก็จะสามารถที่จะช่วยในการกำจัดรอยคราบกลิ่นเหม็นที่ติดมาพร้อมกับเสื้อมือสองได้อย่างง่ายๆแล้วจ้ะ

การซักเสื้อเลอะรอยเปื้อน เปรอะขนาดไหนก็ไม่หวั่นหวาด ทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายนิดหนึ่ง

รอยเปื้อนน้ำหมึกที่ติดบนเสื้อผ้า

ในการขจัดคราบน้ำหมึกบนผ้าสี ให้โรยเกลือลงไปให้ทั่วรอยเปื้อน แล้วนำผ้าไปแช่ลงไปในน้ำนมตราบจนกระทั่งรอยเปื้อนจะหลุดออก แล้วหลังจากนั้นก็เลยนำผ้าไปซักเหมือนอย่างที่เคยซักตามปกติ ส่วนผ้าขาว ให้ผสมน้ำมะนาวกับเบกกิ้งโซดากระทั่งแปลงเป็นครีมข้นๆแล้วหลังจากนั้นนำไปป้ายบนรอยเปื้อน แล้วทิ้งเอาไว้สัก 20 นาที เสร็จและนำผ้าไปซักได้ตามปกติเลยนะ (แม้จะใช้วิธีการแบบนี้ อย่าลืมทดสอบก่อนซักจริง ด้วยการนำส่วนประกอบไปป้ายไว้ที่รอบๆปลายผ้าก่อนสักน้อย เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงด้วยนะคะ) อีกแนวทางหนึ่งก็คือ รองกระดาษทิชชูไว้ใต้เสื้อส่วนที่เลอะเทอะน้ำหมึก แล้วหลังจากนั้นพ่นสเปรย์แต่งทรงผมลงไปจนถึงเปียก ทิ้งเอาไว้ราว 2-3 นาที แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยซักออก

คราบเปื้อนน้ำมันที่กระเด็นโดนเสื้อผ้าเรา

ส่วนสำหรับคราบเปื้อนน้ำมัน ขั้นแรกให้พวกเรานำกระดาษมาซับน้ำมันออกไปให้มากที่สุด แล้วโรยแป้งทาตัวลงไปบนรอยเปื้อน แล้วต่อจากนั้นก็ค่อยๆใช้ช้อนหรือกระดาษมาปัดแป้งออก โดยต้องระมัดระวังอย่าให้แป้งโดนผ้าส่วนอื่นๆเสร็จรวมทั้งไปผสมน้ำยาสำหรับล้างจานกับน้ำเปล่า แล้วเอามาป้ายบริเวณที่มีคราบน้ำมัน ใช้มือถูเล็กน้อยหรือจะใช้แปรงวนเป็นวงกลมก็ได้ ต่อจากนั้นก็เอาไปซักเหมือนอย่างปกติได้เลย ซึ่งถ้ายังพบว่ามีคราบเปื้อนอยู่ก็ให้กระทำตามขั้นตอนซ้ำๆตราบจนกระทั่งจะกำจัดคราบออกได้หมด

รอยเปื้อนซอสมะเขือเทศที่กระเด็นโดนเสื้อผ้า

เสื้อที่เลอะซอสสามารถกำจัดออกได้โดยการแช่ผ้าลงในน้ำเย็น ที่ผสมสบู่ล้างมือ 1/2 ช้อนชา แล้วก็น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ โดยให้แช่ทิ้งเอาไว้ราวๆ 30 นาที แล้วต่อจากนั้นค่อยเอามาล้างออกโดยใช้น้ำสะอาด ถ้าเกิดพบว่ายังมีรอยเปื้อนคงเหลือ ให้เอาไปซักอีกรอบด้วยน้ำยาขจัดคราบ เสร็จรวมทั้งเอามาชำระล้างด้วยน้ำอุ่น หลังจากนั้นก็เลยเป่าให้แห้ง แต่ว่าถ้าว่าคราบเปื้อนยังไม่หลุดออกไปอีก ให้แช่ผ้าในน้ำยาซักผ้าอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือจะแช่ทิ้งเอาไว้ข้ามคืนก็ได้ หลังจากนั้นก็นำไปทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นอีกรอบ เท่านี้คราบเปื้อนซอสต่างๆก็จะจางลงแล้ว

คราบเปื้อนสีทาบ้านที่กระเด็นมาโดน

ถ้าสีทาบ้านเปื้อนเสื้อก็เอาออกได้ ถ้าเกิดเป็นคราบเปื้อนใหม่เริ่มจากขูดสีออกมาจากเสื้อให้ได้มากที่สุด แล้วเปิดน้ำผ่านบริเวณที่มีคราบพร้อมด้วยขยี้เบาๆต่อไปผสมสบู่เหลวกับน้ำยาที่เอาไว้ล้างจานเข้าด้วยกัน ในอัตราส่วน 1:1 นำฟองน้ำมาจุ่มแล้วก็ค่อยนำไปเช็ดรอบๆที่มีสีทาบ้านเปื้อน โดยประมาณ 1 นาที แต่ว่าถ้าหากเป็นรอยเปื้อนเก่าที่สีจับตัวกันจนเป็นก้อนแล้ว ใช้สเปรย์แต่งผมหรือแอลกอฮอล์เช็ดโดยประมาณ 1 นาที เช่นเดียวกัน แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ก่อนที่จะซักเหมือนอย่างปกติ

วิธีสำหรับซักคราบเหลืองบนเสื้อผ้า ฝังแน่นมากแค่ไหนก็กำจัดได้

สบู่ก้อนมีอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ช่วยขจัดคราบเหลืองจากเหงื่อไคลตามจุดต่างๆบนเสื้อผ้าได้ดี ไม่แพ้สินค้าซักผ้าทั่วๆไป แถมยังอ่อนโยนไม่ทำร้ายเนื้อผ้าอีกต่างหาก เมื่อเสื้อผ้าเปรอะรอยเปื้อนก็ให้รีบเอามาชำระล้างให้เร็วที่สุด เริ่มจากป้ายน้ำเปล่าลงบนรอยเปื้อน แล้วนำก้อนสบู่มาเช็ดคราบเปื้อนรวมทั้งขยี้ให้กำเนิดฟองจนกระทั่งคราบเปื้อนนั้นเลือนรางไป และจากนั้นจึงนำไปซักและก็ทำความสะอาดเลยในทันที

สำหรับผู้ที่มีปัญหาถุงเท้าย้วยหรือชอบเหลือข้างเดียวบ่อยๆ

แนะนำให้ใส่ถุงตาข่ายก่อนที่จะซัก ก็จะเป็นการถนอมถุงเท้าให้ใส่ไปได้นานๆแถมยังได้ถุงเท้ากลับมาแบบครบคู่ข้างหลังซัก ไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะหายอีกต่อไป

หากอยากได้ใส่เสื้อผ้าที่เพิ่งซักไปแบบเร่งด่วน

สามารถเร่งให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นได้ด้วยการนำผ้าเช็ดตัวที่แห้งสนิทแล้วมาห้อยไว้ราว ถ้าหากเป็นเสื้อผ้าที่ยังเฉอะแฉะมากมายๆแม้กระนั้นกำลังจะถึงในช่วงเวลาที่จำเป็นต้องเอามาใส่แล้ว ให้เอามาวางบนผ้าสำหรับเช็ดตัวที่แห้งสนิทแล้วม้วนเข้าด้วยกัน ก่อนที่จะนำไปปั่นแห้งอีกครั้ง เพื่อลดความชื้นในเนื้อผ้า

เทคนิคดีๆที่พวกเราเอามาฝากวันนี้หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกๆท่าน โดยยิ่งไปกว่านั้นเรื่องรอยเปื้อนต่างๆบนเสื้อที่มีสีขาวสามารถกำจัดออกได้ง่ายดายมากๆ ถึงแม้บางอย่างจำเป็นต้องใช้เวลาสักนิดสักหน่อยถึงจะเห็นผลชัดเจนโดยเฉพาะรอยเปื้อนฝังลึก แต่ว่าก็ช่วยทำความสะอาดได้แน่นอน