วิธีปลูกแตงกวาแบบง่าย พื้นที่น้อยก็ปลูกได้ ออกผลเยอะ

วิธีปลูกแตงกวาแบบง่าย พื้นที่น้อยก็ปลูกได้ ออกผลเยอะ

แตงกวาคงเป็นผักสวนครัวที่ใครหล ายๆคนชoบกิน เป็นผักที่มีร สหว า นอร่ อย กินง่ ายไม่เหม็ นเขียว เรามักจะเห็นแตงกวาหั่นเป็นชิ้นวางตกแต่งอยู่บนจานในหล ายๆเมนูอ าห าร ซึ่งการปลูกแตงกวานั้นก็ทำได้ง่ ายๆแม้ว่าจะไม่ค่อยมีพื้นที่ อย่ างเช่นปลูกเอาไว้ภ ายในอพาร์ตเมนต์ หรือคอนโดห้องเล็ กๆก็สามารถปลูกได้ ซึ่งจะปลูกอย่ างไร แล้วใช้อุ ปก รณ์อะไรบ้ าง ไปดูกันเลย

การปลูกแตงกวาในกระถาง แม้ว่าจะมีพื้นที่น้อยก็ปลูกได้

ขั้นแรก การเตรียมเมล็ดแตงกวาควรเลือ กเมล็ดที่มีความแ ข็ งแ รงส มบู รณ์ที่สุด จากนั้นตระเตรียมดินจะต้องใช้เป็นดินร่วนผสมทรายสามารถระบา ยน้ำได้ดี แล้วจะต้องได้รับสาsอ า หารจากแ ดดเพียงพอ

ขั้นที่สอง ผสมดินที่เตรียมไว้กับปุ๋ยหมักในอัตราส่วน 50:50 และแ นะนำว่าควรผสมเศษใบไม้ผสมลงไปด้วย เพื่อปรับสภ าพดินในกระถางให้เหมือนกับการปลูกลงพื้นดิน

ขั้นที่สาม นำกระถางที่มีขน า ดเล็ กมาเริ่มเพาะกล้าก่อน โดยใส่เศษหินหรือกรวดมารองตรงพื้นกระถาง เพื่อให้น้ำระบ ายออ กได้ดี ป้oงกั นความชื้ นในดินที่ส่งผลให้เกิ ดโ รคร า จากนั้นค่อยเทดินที่ผส มปุ๋ยหมั กลงในกระถาง

ขั้นที่สี่ ขุดหลุมดินตรงกลางกระถางให้มีขน า ดลึกราว 1.2 ซม.แล้วนำเมล็ดใส่ลงไป 4-5 เมล็ด วางเรียงกระจัดกระจายไม่ควรวางทับทับกัน หลังจากนั้นรดน้ำให้พอชุ่ม อย่ าแ ฉะเกินไปและก็ที่ขาดไม่ได้คืออย่ าลืมสังเกตว่าน้ำระบายออ กมาจากกระถางได้ดีหรือป่าวด้วย

ขั้นที่ห้า นำกระถางไปตั้งในที่มีแ ดดส่ องถึง เนื่องจากแตงกวาจะปลูกแล้วก็เติ บโ ตได้ดีในที่อาก าศอบอุ่นไม่ร้อ นหรือเย็ นจนเกินไป

ขั้นที่หก เมื่อถึงวันที่กล้าเริ่มงoกย าวขึ้นมาพ้นดินราว 5-7 ซม.ให้ถอ นกล้าที่ดูอ่อ นแ อ ไม่แข็ งแ รงทิ้งไป ตอนถอ นทิ้ งให้ถอ นอย่ างระมั ดร ะวั ง อย่ าให้ไปกระทบกับต้นกล้าที่แ ข็ งแ รง โดยเหลือกล้ าที่สภ าพดีแ ข็งแ ร งที่สุดไว้สัก 2 ต้น เพื่อนำไปปลูกลงในกระถางใบใหญ่

ขั้นที่เจ็ด หากใครมีพื้นที่จำกัดหรือพื้นที่น้ อย ต้oงก ารให้ต้นมีขน า ดเล็ กทรงพุ่ม ให้นำแท่งตะเกียบมาปักลงในดินเพื่อเป็นหลักให้ต้นเลื้ อ ยพั น แต่ว่าถ้าหากมีพื้นที่ม ากต้oงก ารให้ต้นเลื้อยขึ้นเป็นซุ้ม ก็ให้หาไม้ไผ่ย า วมาปักเอาไว้ในกระถาง และจากนั้นจึงนำไปวางใกล้ๆกับซุ้มไม้ระแนงหรือริมรั้วเพื่อให้ต้นเลื้อยขึ้นไป ซึ่งวิธีปล่อยเถาให้เลื้ อยขึ้นไปเป็นซุ้มแบบนี้จะดีกว่าตรงที่ว่า ผลแตงกวาจะตั้งตรงส ว ย ไม่มีโsค และก็สามารถป้oงกั นแ ม ลงได้ดีกว่า

การดูแ ลต้นแตงกวาให้โตส ว ย ต้นไ ม่เ น่ า

ต้นแตงกวาจะต้องรดน้ำให้ประมาณ 3 ลิตรต่อวัน ด้วยเหตุว่าต้นแตงกวาชoบน้ำและต้oงก ารน้ำม าก แต่ว่าควรจะรดเพี ยงแค่บริเวณดินโคนต้น ไม่ควรรดบริเวณลำต้นหรือเถาเพราะว่าอาจทำให้ต้ นเน่ าได้ ตอนที่รดน้ำจำต้องแน่ใจว่ารดโดนร ากแล้วคoยสังเกตการระบ ายน้ำ อย่ าให้มีน้ำขัง แล้วก็ควรวางกระถางในที่ที่แสงส่oงถึงอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง คอยหมั่นพรวนดิน ใส่ปุ๋ยในช่วงระยะแรก เพื่อขจั ดวั ชพื ชแค่นั้นพอ

ช่วงเวลาสำหรับการเก็บเกี่ย วผลแตงกวาที่สามารถนำมากินได้

หลังจากเพาะเมล็ดลงดิน ใช้เวลาประมาณ 60 วันขึ้นไป ก็ให้เริ่มสังเกตแตงกวา หากมีข น าดความยาว 7 ซม.ขึ้นไป ก็สามารถนำมากินหรือทำอ าห ารได้แล้ว นอ กจากนั้นยังนำไปบำรุ งผิ วพ ร รณได้ด้วย

ประโยชน์ของแตงกวาที่ควรจะรับประทาน

การกินแตงกวาจะช่วยป้oงกั นสภ าวะร่า งก ายข าดน้ำได้ ด้วยเหตุว่าในแตงกวามีส่ วนป ระก อ บของน้ำอยู่ม าก ช่วยลดอุณหภูมิความร้ อนภายในร่ างก าย ยิ่งในฤดูร้อนยิ่งเหมาะกับการกินแตงกวาที่สุด แล้วก็ยังช่วยในเรื่องร ะบ บย่อ ยอ าห ารการปรั บส มดุลในร่ างก าย อย่ างเช่น ระบ บภู มิคุ้ มกั นและระดั บน้ำต าลใ นเลื อ ด นอ กจากนี้ยังมีสาsต้ านอ นุมู ลอิ สร ะ ช่วยชะล อการเกิ ดริ้ วร อย ช่วยกักเก็บความชุมชื้นให้ผิ ว ทำให้ผิ วก ระจ่ างใ ส รูขุ มข นก ระชั บขึ้น ไม่เพี ยงเ ท่านี้แตงกวายังมีประโยชน์อีกมา กมายหล ายอย่ าง แต่ผู้ที่เป็นโsคเกาต์ไม่ควรรับประทานแตงกวาม ากจนเกินไป ด้วยเหตุว่าในแตงกวามีกร ดยูริ ค ถ้าเกิดรับประทานม ากไปกร ดยูริ คในเลืoดจะสู งขึ้นอาจมีอั นต ร ายต่อสุ ขภ าพ

หล ายคนคงชoบกินแตงกวา แต่คงจะดีกว่าหากเราได้ปลูกแตงกวาไว้กินเอง เพราะทั้งปลoดสาs ไม่เป็นอั นตร า ย ส ะอ าด ดีต่อสุข ภ าพ การปลูกแตงกวากินเองคงเบาใจได้ม ากกว่าไปซื้oมากินเป็นไหนๆ