ขยะจากปากคนอื่น อย่าเก็บมาคิด ให้บั่นทอนหัวใจเรา

ขยะจากปากคนอื่น อย่าเก็บมาคิด ให้บั่นทอนหัวใจเรา

คำพูดที่เป็นขยะจากปากคนอื่น อย่าได้เก็บมาบั่นทอนจิตใจของคุณ นี่เป็นประโยคที่จะช่วยเตือนสติใครหลายคนได้ดีมาก เราไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยหรือปากร้ายๆของใครได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะฟังได้ ปากบางคนพ่นแต่คำร้ายๆ คำที่ทำให้คนอื่นต้องเจ็บปวด เราอย่าได้ไปสนใจเก็บคำเหล่านั้นมาเลย อยู่ให้ห่างจากคนเหล่านี้แล้วชีวิตคุณจะมีแต่สุข สงบ และสบายใจ

นี่เป็นอีกหนึ่งบทความดีๆ ที่จะช่วยให้แง่คิดกับการชีวิตอย่างสุขสงบ ไม่ยึดถือกับอะไรที่เจ็บปวด เพราะสิ่งภายนอกรอบตัวเรา ล้วนไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุสิ่งของ หรือความรู้สึกของคนรอบข้าง เพื่อนบางคนตอนเจอกันช่วงแรกๆ ก็คุยถูกคอ เข้ากันได้ดี รู้สึกสนิทกันไวมาก แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป เมื่อผ่านเหตุการณ์อะไรหลายๆอย่าง วันเวลาที่ผ่านไปก็อาจทำให้เพื่อนคนนั้น เปลี่ยนไปจนไม่สนิทกันไปเลย หรือจะให้พูดอีกอย่างคือ เราอาจไม่ได้รู้จักนิสัยที่แท้จริงของเพื่อนคนนั้นเลย

พอเวลาผ่านไปเริ่มสนิทกันมากขึ้น ตัวตนจริงๆก็จะเริ่มเผยออกมา บางทีเราอาจเผลอพูดตรงไปบ้าง หรือมีอะไรที่คิดคนละอย่าง แม้ว่าเราจะไม่ได้ใช้ถ่อยคำรุนแรงหรือคำด่า แต่เมื่อคำตอบเราไม่ตรงใจเขา เพื่อนก็อาจไม่พอใจเราขึ้นมาง่ายๆ นั้นก็เพราะเขาแคร์ความรู้สึกตัวเองมากกว่า ที่จะแคร์ความรู้สึกเรา แบบนี้ถึงทำให้เพื่อนรัก เพื่อนสนิทแตกหักกันมาเยอะแล้ว

ส่วนความรักระหว่างชายหญิง การเป็นแฟน การเป็นคนรักกันหรือจะพูดง่ายๆคือ ความเสน่หา อันนี้เราว่าเป็นอะไรที่พบเห็นได้บ่อยมาก และคุณอาจเคยเจอกับตัวมาแล้วก็ได้ ในช่วงแรกๆที่เข้าหากัน ต่างคนก็ต่างหันด้านดีเข้าหากัน เมื่อรู้สึกอยากจะคบหาดูใจกันต่อ อยากเลื่อนสถานะเป็นแฟน ก็จะพูดจาเอาใจ ตามใจเราไปซะทุกอย่าง แม้แต่สิ่งของมีค่าที่เราอยากได้ เขาก็จะไปหามาให้ เพื่อที่จะได้หาเรื่องมาเจอกับเรา แต่นั้นก็เป็นเพียงแค่มุมเดียว ด้านดีของเขาในตอนแรกเพื่อให้เราคิดว่า คนนี้แหละดี คนนี้แหละใช่ คนที่เราตามหามานาน พอได้มาคบหากันเป็นจริงเป็นจัง อยู่ด้วยกันผ่านทุกข์ผ่านสุข

จนเวลาล่วงเลยผ่านมา จากเดือนเป็นปี เราก็จะได้เห็นตัวตนของอีกฝ่ายมากขึ้น เขาไม่ได้มีแค่ด้านดีที่เขาหันมาให้เราเห็นในตอนแรก แต่เขาก็อาจมีด้านร้ายที่เราก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน พอถึงจุดนึงที่เริ่มไม่เข้าใจกัน ความรัก ความเสน่หาที่เคยมีให้กันก็เริ่มบั่นทอนกันลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายแตกหักกันไป พอเลิกกับคนนี้ไปเริ่มความรักกับคนใหม่ มันก็จะกลายเป็นวงจรที่วนไปมาแบบนี้เรื่อยๆ เราอาจต้องมาคิดแล้วว่า โลกนี้ไม่มีใครที่ตามใจ เอาใจเราไปได้หมดทุกอย่าง และไม่มีใครคิดและเห็นด้วยไปกับเราทั้งหมด

ในด้านความสัมพันธ์ครอบครัว พ่อแม่ลูก ตอนที่เรายังเป็นเด็กเขาก็จะเห็นว่าเราน่ารักตัวเล็กๆ ตามใจเอาใจเราไปหมด คอยดูแลเราแบบใกล้ชิดตลอดเวลา นี่อาจทำให้เราคิดว่าพ่อแม่จะดีกับเราแบบนี้ตลอดไป แต่เมื่อเราโตขึ้น ไม่ได้น่ารักตัวเล็กๆแบบเมื่อก่อน ไม่ได้เรียนดีแบบที่เขาหวัง ไม่ได้ทำงานได้เงินเยอะๆแบบที่เขาต้องการ เราก็อาจกลายเป็นลูกที่โดนเปรียบเทียบกับลูกบ้านอื่นตลอดเวลา จนเรารู้สึกไม่มั่นใจ รู้สึกแย่ ต้องแอบไปร้องไห้เพราะมันอั้นไม่อยู่แล้วจริงๆ บางครอบครัวก็แย่หน่อย ถ้าวันนึงพ่อแม่ต้องแยกทาง ต่างคนต่างไปมีครอบครัวใหม่ ทิ้งให้เราต้องอยู่กับญาติ ถ้าใครได้ญาติใจดีก็ดีไป แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีนะสิ

ญาติบางคนไม่เคยดีกับเราสักนิด ทั้งคำพูดคำจาและการกระทำ แต่วันนึงที่เราได้ดีเป็นคนมีฐานะขึ้นมา กลับมาทำตัวเป็นญาติที่ดีขึ้นมาซะงั้น ทำมาเป็นพูดดี ใจดี ยกยอเรากันใหญ่ หวังจะให้เราคิดว่าเราก็มีญาติที่ดีนะ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย คนพวกนี้แค่ต้องการส่วนแบ่ง ได้รับการดูแลจากเรา หรือญาติบางคนก็จ้องที่จะยืมเงินเราอย่างเดียว พอเขาได้ในสิ่งที่ต้องการเขาก็จะจากไป

นี่เป็นบทความที่เรายกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง อยากจะบอกให้กับทุกคนได้เรียนรู้ ได้รู้ถึงชีวิตจริงๆว่าไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจเราไปหมดทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่เราควบคุมได้ ไม่ว่าจะความคิดหรือความรู้สึกของใคร ทั้งเพื่อน แฟน หรือแม้แต่ครอบครัวเราเอง หากเราควบคุมทุกอย่างได้หมด คนบนโลกนี้คงไม่มีใครรู้จักกับความทุกข์แล้วล่ะ ฉะนั้นสิ่งที่เราอยากจะบอกก็คือ รักตัวเองให้มากๆ สนใจและแคร์ความรู้สึกของตัวเองเสมอ อย่าไปคาดหวังหรือโหยหาความรักจากใครให้เสียเวลา ใครที่เข้ามาแล้วบั่นทอนให้รีบตัดทิ้งไป การที่เรารักตัวเองมากๆ ก็จะเป็นการคัดให้เหลือแต่คนดีๆอยู่รอบตัวเรา

ขอบคุณที่มาจาก kubkhao.com