หลายบ้านเลี้ยงลูกแบบนี้ เลยทำให้ลูกเป็นเด็กไม่รู้จักโต

หลายบ้านเลี้ยงลูกแบบนี้ เลยทำให้ลูกเป็นเด็กไม่รู้จักโต

พ่อแม่ทุกคนรักลูก แต่การแสดงความรักบางแบบก็ทำให้ลูกเสียนิสัย ในช่วงวัยเ ด็ กลูกกำลังเรียนรู้ หากเราตามใจมากไป ออกตัวปกป้องลูกไปซะทุกอย่าง ไม่ให้ลูกรู้จักเรียนรู้และแก้ปัญหาเอง ลูกจะเติบโ ตมาโดยที่ทำอะไรเองไม่เป็น แก้ปัญหาเองไม่ได้ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ของพ่อแม่ อาจจะทำให้ลูกเป็นเ ด็ กที่ไม่รู้จักโต

1 ทำการบ้านให้ลูก เมื่อเห็นว่าลูกทำไม่เป็น

พ่อแม่บางคนขี้เกียจสอนการบ้านลูก หรือบางทีก็สงส า รเวลาที่เห็นลูกทำการบ้านไม่เป็น จึงทำการบ้านให้ พฤติกรรมแบบนี้ไม่สมควรเลย เพราะจะทำให้ลูกเป็นคนเรียนรู้ ไม่ฝึกทำด้วยตัวเอง ถึงการบ้านจะย าก ลูกทำไม่ได้ พ่อแม่ก็ต้องสอนให้ลูกทำเองให้เป็น เขาจะค่อยๆเรียนรู้และคิดตามจนทำได้เอง

2 ซักผ้าให้ลูก เพราะไม่อย ากให้ลูกเห นื่ อ ย

เมื่อถึงวัยที่โตพอจะทำงานบ้านเองได้แล้ว ควรจะฝึกให้เขาทำเอง ไม่ว่าจะกวาดถูบ้าน ล้างจาน หรือซักผ้า การที่ให้ลูกซักผ้าของตัวเองจะช่วยฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบ มีวินัยในตัวเอง โ ตมาลูกจะได้ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่ไปตลอด

3 นำของที่ลูกลืม ไปให้ที่โรงเรียน

การที่ลูกลืมของไว้ที่บ้านบ่อยๆ ต้องโทรมาหาพ่อแม่ให้เอาของไปให้ที่โรงเรียน แบบนี้จะเป็นการปลูกฝั งให้ลูกไม่มีความรอบคอบ ฉะนั้นหากลูกลืมก็ให้เขารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น วันหลังก่อนออกจากบ้าน ลูกจะได้มีความรอบคอบขึ้น ตรวจสอบของทุกอย่างก่อนไปโรงเรียนเสมอ

4 ไม่ให้ครูที่โรงเรียนว่ากล่าว หรือตักเตือนลูก

พ่อแม่บางคนไม่ชอบให้ใครมาว่าลูก รวมถึงครูที่โรงเรียนด้วย เมื่อลูกมาฟ้ อ งว่าโดนครูดุ พ่อแม่ก็พร้อมไปเอาเรื่องทันที แบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย พ่อแม่ควรต้องใจเย็นๆ ถามลูกถึงสาเหตุที่ครูดุก่อน ว่าลูกไปทำอะไร ทำไมถึงโดนดุ หากว่าลูกทำผิดจริง เราก็ต้องอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงสาเหตุ เขาจะได้รู้ตัวว่าตัวเองทำผิด สิ่งไหนไม่ดีก็ค่อยๆสอนกันไป ลูกจะได้เรียนรู้และปรับตัวให้ดีขึ้น

5 อนุญาตให้ลูกหยุดเรียนได้บ่อยๆ

เด็กหลายคนมักจะชอบป่วยการเมื อ งอยู่บ่อยๆ ซึ่งนั้นก็เกิดจากหลายสาเหตุ ลูกอาจไม่ชอบเพื่อนที่โรงเรียน ไม่อยากไปเรียนวิชานี้ หรือขี้เกี ย จแต่งตัวไปโรงเรียน เราก็ไม่รู้ว่าระหว่างที่ลูกอยู่โรงเรียนลูกชอบ หรือไม่ชอบอะไร มีปัญหาอะไรหรือป่าว พ่อแม่ก็อย่าเพิ่งไปกดดันหาคำตอบจากลูก ควรทำให้ลูกรู้สึกสบายใจ สนิทใจกับพ่อแม่มากขึ้น เดี๋ยวเขาก็เล่าให้เราฟังเอง แต่พ่อแม่ก็ควรเปิดใจยอมรับฟังเสมอ ไม่ควรว่ากล่าวลู กแ ร งๆ

6 ปลุกลูกไปโรงเรียนทุกเช้า

การตื่นเช้าไปโรงเรียนควรเป็นหน้าที่ ที่ลูกต้องรับผิดชอบ ควรฝึกให้ลูกตั้งนาฬิกาปลุก จัดสรรเวลานอนด้วยตัวเอง มีตารางในการใช้ชีวิตว่าควรทำอะไรก่อน อะไรหลัง แบบนี้จะช่วยให้ลูกมีวินัยในตัวเอง ดูแลตัวเองได้

7 ไม่ควรยุ่งกับเรื่องการเรียนลูกมากเกินไป

พ่อแม่เป็นห่วงในเรื่องการเรียนลูกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ใครๆก็อยากให้ลูกได้ดีกันทั้งนั้น แต่บางอย่างพ่อแม่ก็ไม่ควรบงการชีวิตลูกมากเกินไป ควรให้เขาได้เลือกสิ่งที่ชอบแล้วตัดสินใจเองบ้าง เขาจะได้ใช้ชีวิตกับการเรียนได้อย่างมีความสุข และโตเป็นผู้ใ ห ญ่มากกว่าด้วย

8 ทำอาห า รให้ลูกทุกมื้อ

พ่อแม่ก็อย ากจะทำอ าห า รอร่อยๆให้ลูกกินทุกมื้อ กลัวลูกจะไม่อิ่ม จึงต้องจัดเตรียมอ าห า รไว้ให้ลูกตลอดเวลา แต่ไม่ใช่พฤติกรรมที่ดีเลย เมื่อลูกโตขึ้นพ่อแม่ควรฝึกให้ลูกทำอ าห า รเองบ้ าง อาจจะเริ่มจากงานเล็กๆ หุงข้าว ทอดไข่ หรือให้ลูกมาเป็นผู้ช่วยในการเตรียมอ าห ารก็ได้ พอโตขึ้น เขาจะได้ทำเองเป็น

9 กำหนดเส้นทางไว้ให้ลูก

การขีดเส้น ตั้งกฎ หรือกำหนดเส้นทางไว้ให้กับลูกมากเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย นอกจากจะทำให้ลูกไม่มีความสุขแล้วยังทำให้ลูกกดดันด้วย เราควรให้ลูกได้ล อ งเรียนรู้ ให้เขาทำในสิ่งที่ตัวเองชอบหรือสนใจ บางอย่างที่ไม่ดีก็ค่อยๆเตือนและแนะนำกันไป แบบนี้ลูกจะได้มีความสุขกับการใช้ชีวิต ได้ทำสิ่งใหม่ๆที่เขาชอบ

เด็กเดี๋ยวนี้โตไว เรียนรู้ได้เร็ว ให้เขาได้หัดทำอะไรเอง ตัดสินใจเองบ้าง พ่อแม่ก็คอยแนะนำเป็นที่ปรึกษาอยู่ข้างๆ เปิดใจรับฟังลูกให้มากๆ คุยกันดีๆด้วยเหตุด้วยผลจะช่วยทำให้ลูกรับฟังมากกว่า

ขอขอบคุณที่มาจาก g o t o k n o w.