ใครกินบร็อคโคลี่กับหน่อไม้ฝรั่ง บ่อยๆต้องรู้ไว้เลย

ใครกินบร็อคโคลี่กับหน่อไม้ฝรั่ง บ่อยๆต้องรู้ไว้เลย

มะเร็ง…โรคที่หลายคุณได้ยินเเล้วถึงกับต้องเมินหน้าหนีเพราะไม่ต้องการที่จะอยากรู้จัก ด้วยเหตุว่าเป็นโรคที่ใครเป็นแล้วจะทรมานมากและโอกาสรักษาให้หายนั้นน้อยมาก แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการกินอาหารบางอย่างนั้นสามารถป้องกันมะเร็งได้ มาดูกันเลยดีกว่า 8 อาหาร ที่ว่าเป็น “ ศัตรูของโรคมะเร็ง ” มีอะไรบ้าง?

1. ศัตรูของมะเร็งลำไส้ คือ หน่อไม้น้ำ

ศัตรูของโรคมะเร็ง

2. ศัตรูของมะเร็งเต้านม คือ สาหร่ายทะเล

ศัตรูของโรคมะเร็ง

3. ศัตรูของมะเร็งกระเพาะอาหาร คือ กระเทียม

ศัตรูของโรคมะเร็ง

4. ศัตรูของมะเร็งตับ คือ เห็ด

ศัตรูของโรคมะเร็ง

5. ศัตรูของมะเร็งตับอ่อนคือ บร็อคโคลี่

ศัตรูของโรคมะเร็ง

6. ศัตรูของมะเร็งปอดคือ ผักโขม

ศัตรูของโรคมะเร็ง

7. ศัตรูของมะเร็งผิวหนังคือ หน่อไม้ฝรั่ง

ศัตรูของโรคมะเร็ง

8. ศัตรูของมะเร็งปากมดลูกคือ ถั่วเหลือง

ศัตรูของโรคมะเร็ง

11 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณห่างไกลโรคมะเร็ง

1. ดื่มน้ำที่สะอาด การลดสารที่ก่อตัวทำให้เกิดโรคมะเร็งวิธีหนึ่ง คือการดื่มน้ำที่สะอาด จากการศึกษาที่เพิ่มค้นพบใหม่จากสถิติของสถาบันมะเร็งพบว่าการดื่มน้ำสะอาดจากเครื่องกรองจะดีกว่าการดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่มีคุณภาพน้ำต่ำกว่ามาตรฐาน และจากการศึกษาของสมาคมสิ่งแวดล้อมพบว่าการเก็บรักษาน้ำในเหยือกแก้ว หรือภาชนะสเตนเลส จะดีกว่าการเก็บรักษาในภาชนะพลาสติก

2. พยายามหลีกเลี่ยงการสูดดมหรือสัมผัสก๊าซขณะเติมน้ำมันรถ เพราะสารพิษที่อยู่ในอากาศสามารถเข้าสู่ปอดและหากกระเด็นสู่ผิวหนังจะทำให้เกิดมะเร็งได้

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำอย่างพอเพียงสามารถลดความเข้มข้นของการขับถ่ายปัสสาวะได้และลดมะเร็งที่อาจเกิดขึ้นกับกระเพาะปัสสาวะได้ด้วย ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันหรือให้ปริมาณปัสสาวะมีสีเจือจางเมื่อขับถ่ายทุกครั้ง

4. รับประทานผักผลไม้สีเขียว เพราะสารแมกนีเซียมจากพืช ผักสีเขียวช่วยลดมะเร็งลำไส้ได้โดยเฉพาะสุภาพสตรี อีกทั้งการได้รับสารแมกนีเซียมที่เพียงพอ จะช่วยให้เซลล์ในร่างกายทำงานอย่างปกติ การรับประทานผักขมครึ่งถ้วยต่อวันให้ปริมาณแมกนิเซียม 75 มิลลิกรัม ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย

5. ออกกำลังกายลดการเกิดมะเร็งเต้านม การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเผาผลาญไขมัน ดังนั้นการออกกำลังกายโดยการเดินเร็วอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ช่วยลดการเกิดมะเร็งเต้านมได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี , share-si
ขอขอบคุณที่มาจาก :http://www.healthy108toyou.com/2018/11/8_18.html